ตอนที่กลับมาจากปาย นั่งมากับรถตู้ขนของ
พวกแอมป์ และลำโพงที่ใช้จัดงานหู
ฟังเพลงมาตลอดทาง
จู่ๆ ลุงแก้ว (คนขับรถ) ก็ถูกโบกให้จอดหลบข้าง
กลางถนนมีกรวย ข้างถนนมีรถตู้จอดอยู่
มีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว โผล่หน้ามาดู
ถามว่ามาจากไหน จะไปไหน ทำไมมาคนเดียว
ก็ตอบไปตามจริง
เขาถามต่อว่า จ่ายค่ารถเท่าไหร่
ก็ตอบไปตามจริงว่าไม่ได้จ่าย
เพราะติดรถขนเครื่องเขากลับมา
แล้วเขาก็ให้เจ้าหน้าที่คน
ที่เขาบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมขนส่ง
ไปคุยกับลุงแก้ว
ตำรวจท่องเที่ยวบอกว่า
ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยว ว่ามีรถตู้โก่งราคา
บางคันเรียกเงินจากฝรั่ง 700 บาท
นี่ใกล้เข้าฤดูท่องเที่ยวแล้ว
เดี๋ยวจะเสียชื่อประเทศชาติ
ซึ่งรถตู้แบบที่วิ่งรับคนนี้ ตามกฏถือว่าผิด เพราะว่าไม่ได้ตีทะเบียนรถรับจ้าง
เราบอกไปว่า น่าจะไปตรวจเกสต์เฮ้าส์และร้านเหล้าบ้าง
เพราะเห็นหน้าไฮทีไร ก็โก่งราคาขึ้นสุดตัวเหมือนกัน
แกก็ว่า ทำไม่ได้ เพราะติดขัดหลายอย่าง
กลับขึ้นรถมา ถามลุงแก้วว่า เกิดอะไรขึ้น
ลุงแก้วเล่าว่า โดนปรับไปสองพัน
ข้อหาติดตะแกรงบนหลังคารถโดยไม่ขออนุญาต
แกว่าเป็นการหาเรื่องปรับไปตามประสา
เพราะทะเบียนรถก็มี ผู้โดยสารที่เก็บเงินมาก็ไม่มี
จะปรับเป็นรถตู้เถื่อนก็ไม่ได้
ลุงแก้วบอกอีกว่าที่จริงแล้ว เป็นการว่าจ้างจากบริษัทเดินรถ
(ซึ่งเข้าใจว่าผูกขาดอยู่เจ้าเดียว)
เพื่อตัดทางทำมาหากินของบรรดารถตู้
หวังให้ทำมาหากินไม่ได้ คนก็จะไปขึ้นรถที่ให้บริการ
(จำชื่อบริษัทไม่ได้แล้ว แต่เข้าใจว่าลุงแก้วคงหมายถึงรถบัสโดยสารประจำทาง)
ไม่รู้จะเชื่อข้างไหน
ฟังไว้เพลินๆ หัว
และจบเรื่องเล่าเมืองปายแต่เพียงเท่านี้
ฟังเพลงมาตลอดทาง
จู่ๆ ลุงแก้ว (คนขับรถ) ก็ถูกโบกให้จอดหลบข้าง
กลางถนนมีกรวย ข้างถนนมีรถตู้จอดอยู่
มีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว โผล่หน้ามาดู
ถามว่ามาจากไหน จะไปไหน ทำไมมาคนเดียว
ก็ตอบไปตามจริง
เขาถามต่อว่า จ่ายค่ารถเท่าไหร่
ก็ตอบไปตามจริงว่าไม่ได้จ่าย
เพราะติดรถขนเครื่องเขากลับมา
แล้วเขาก็ให้เจ้าหน้าที่คน
ที่เขาบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมขนส่ง
ไปคุยกับลุงแก้ว
ตำรวจท่องเที่ยวบอกว่า
ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยว ว่ามีรถตู้โก่งราคา
บางคันเรียกเงินจากฝรั่ง 700 บาท
นี่ใกล้เข้าฤดูท่องเที่ยวแล้ว
เดี๋ยวจะเสียชื่อประเทศชาติ
ซึ่งรถตู้แบบที่วิ่งรับคนนี้ ตามกฏถือว่าผิด เพราะว่าไม่ได้ตีทะเบียนรถรับจ้าง
เราบอกไปว่า น่าจะไปตรวจเกสต์เฮ้าส์และร้านเหล้าบ้าง
เพราะเห็นหน้าไฮทีไร ก็โก่งราคาขึ้นสุดตัวเหมือนกัน
แกก็ว่า ทำไม่ได้ เพราะติดขัดหลายอย่าง
กลับขึ้นรถมา ถามลุงแก้วว่า เกิดอะไรขึ้น
ลุงแก้วเล่าว่า โดนปรับไปสองพัน
ข้อหาติดตะแกรงบนหลังคารถโดยไม่ขออนุญาต
แกว่าเป็นการหาเรื่องปรับไปตามประสา
เพราะทะเบียนรถก็มี ผู้โดยสารที่เก็บเงินมาก็ไม่มี
จะปรับเป็นรถตู้เถื่อนก็ไม่ได้
ลุงแก้วบอกอีกว่าที่จริงแล้ว เป็นการว่าจ้างจากบริษัทเดินรถ
(ซึ่งเข้าใจว่าผูกขาดอยู่เจ้าเดียว)
เพื่อตัดทางทำมาหากินของบรรดารถตู้
หวังให้ทำมาหากินไม่ได้ คนก็จะไปขึ้นรถที่ให้บริการ
(จำชื่อบริษัทไม่ได้แล้ว แต่เข้าใจว่าลุงแก้วคงหมายถึงรถบัสโดยสารประจำทาง)
ไม่รู้จะเชื่อข้างไหน
ฟังไว้เพลินๆ หัว
และจบเรื่องเล่าเมืองปายแต่เพียงเท่านี้
4 comments:
ซะงั้น - -''
ปายหนาวรึยัง
ปลายเดือนกำลังจะออกเดินทาง
ช่วงนั้นปายยังปลายฝน
ยังไม่หนาว
ตอนนี้ไม่รู้แฮะ
- -'
แต่ได้ข่าวว่า เชียงใหม่ค่ำๆ เริ่มเย็น
>_<
อยากไปปายจัง ^^
เอ ไอที่ว่าทำไม่ได้ เพราะติดขัดหลายอย่าง นี่มันติดอะไรกันหนอ?
หึหึ
:P
Post a Comment