เห็นในรายการข่าว 3 มิติของคุณกิตติ เรื่่องการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่จะเกิดขึ้น บ่ายสามโมงวันนี้ (10 กันยายน 2551) โครงการนี้ชื่อ LHC (The Large Hadron Collider) ซึ่งเป็นชื่อของเครื่องเร่งอนุภาค ที่ฟังแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก ได้ยินคร่าวๆ ว่าถ้าเครื่องนี้ทำงานสำเร็จ นักวิทยาศาสตร์ก็อาจจะเข้าใจจุดกำเนิดของเอกภพได้ แถมยังได้แหล่งพลังงานที่มีค่ามหาศาลและบริสุทธิ์กว่าพลังงานนิวเคลียร์ที่เรามีกันอยู่
แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะมีคนค้านว่าการทดลองนี้อาจทำให้เกิดหลุมดำขนาดใหญ่ ซึ่งอาจสามารถดูดกลืนทวีปยุโรป หรืออาจจะดูดกลืนโลกทั้งโลกหายไปเลยก็ได้
เพื่อความกระจ่างมากขึ้้น ขออนุญาตคัดลอกข้อความมาจาก http://www.thaigaming.com/general-discussion/37004.htm มาให้อ่านกันนะ
Large Hadron Collider (LHC) เป็นเครื่องเร่งความเร็วอนุภาคของศูนย์วิจัย CERN ในสวิตเซอร์แลนด์ มีลักษณะเป็นท่อใต้ดินวนเป็นวงกลมยาว 27 กิโลเมตร เป้าหมายของ LHC คือใช้ทดลองเร่งความเร็วอนุภาคแล้วเอามาวิ่งชนกัน เพื่อตรวจสอบทฤษฎีทางฟิสิกส์อนุภาคว่าเป็นไปได้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าสร้างขึ้นมาได้จริงตามทฤษฎี วงการฟิสิกส์จะก้าวหน้าขึ้นไปอีกมาก
อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่คาใจเรื่องความปลอดภัยของ LHC ในหลายประเด็น เช่นว่า การใช้งาน LHC อาจก่อให้เกิดแบล็คโฮล (หลุมดำ) ขนาดเล็กขึ้นมาทำลายล้างโลก หรือเปลี่ยนขั้วแม่เหล็กโลกให้เหลือข้างเดียวได้ ล่าสุดได้มีคนยื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐ ให้กระทรวงพลังงานสหรัฐและห้องทดลอง Fermilab ซึ่งเป็นภาคีสมาชิกของ LHC ชะลอการใช้งานไปอีก 4 เดือนเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย ซึ่งทางฝ่ายสนับสนุน LHC เองก็ออกมาโต้แย้งว่าไม่มีหลักฐานใดๆ ว่าจะเกิดอันตรายขึ้นแต่อย่างใด ส่วนศาลจะรับฟ้องหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างกระบวนการด้านเอกสาร
แม้นักฟิสิกส์ทั่วโลกจะใช้เวลาถึง 14 ปีและลงทุนไปกว่า 8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อสร้างเครื่องเร่งอนุภาคแอลเอชซี (Large Hadron Collider: LHC) ที่ใหญ่สุดในโลก ภายใต้ความร่วมมือขององค์การศึกษาวิจัยนิวเคลียร์ยุโรป "เซิร์น" (Cern) เพื่อเร่งให้อนุภาคโปรตอนชนกัน แล้วสร้างพลังงานและเงื่อนไขที่เหมือนกับเสี้ยววินาทีที่ 1 ในล้านล้านล้านหลังเกิดบิ๊กแบง (Big Bang) โดยนักวิทยาศาสตร์จะวิเคราะห์เศษซากที่เกิดขึ้น เพื่อไขปริศนาธรรมชาติของมวลและแรงใหม่ๆ รวมถึงความสมมาตรของธรรมชาติด้วย
ทั้งนี้แม้จะฟังดูประหลาด แต่กรณีนี้ก็เป็นประเด็นเคร่งเครียดที่สร้างความวิตกให้กับนักวิชาการและนักวิทยาศาสตร์ในช่วงเวลาไม่กี่ปีมานี้ กล่าวคือพวกเขาจะประมาณความเสี่ยงจากการทดลองใต้ดินที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนนี้ได้อย่างไร และใครที่จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะหยุดหรือเดินหน้าการทดลอง
สรุปคือเครื่องเร่งอนุภาคเพื่อจะทำให้ตัว LHC ทำความเร็วไปแตะระดับความเร็วแสง เพื่อทำให้เกิดปรากฎการใหม่ที่มนุษยชาติไม่เคยมีใครทำและทำได้ ถ้าทำได้สำเร็จจริงจะเป็นผลแห่งความรู้ใหม่อันมหาศาลทางวิทยาศาสตร์ของมนุษย์โลก เอาแบบง่ายๆ ถ้าทำสำเร็จจะเป็นพื้นฐานของการทำเครื่อง Time Machine แต่ถ้าสำเร็จจริงผลเสียที่ตามมา ที่มีกลุ่มคนต่อต้านกันอยู่คือ มันเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก การประเมินผลเสียที่เกิดขึ้นเป็นแค่การสมมุติฐานและคำนวนตามทฤษฎีเท่านั้น จึงเป็นไปได้ทั้งสองทางคือ อาจจะเป็นผลที่ดีมาก หรือผลเสียมากต่อมนุษยชาติก็ได้ ดีก็ดีไปแต่ข้อเสียก็คือ การทำให้อะไรสักอย่างบนโลกใบนี้เร็วในระดับไปแตะก้นความเร็วแสงได้จริงมัน อาจทำให้เกิดหลุมดำขนาดหนึ่งขึ้นมาได้ และอาจจะดูดกลืนทุกสิ่งบนโลกใบนี้ให้หายไปเลยก็ได้ครับ ทั้งผลร้ายและผลดีนั้น คำนวนตามทฤษฎีของนักวิทยาศาสตร์ทั้งนั้นครับ ซึ่งไม่เคยมีใครมีประสบการณ์ในการทดลองจริงได้สำเร็จ
สรุปคือเครื่องเร่งอนุภาคเพื่อจะทำให้ตัว LHC ทำความเร็วไปแตะระดับความเร็วแสง เพื่อทำให้เกิดปรากฎการใหม่ที่มนุษยชาติไม่เคยมีใครทำและทำได้ ถ้าทำได้สำเร็จจริงจะเป็นผลแห่งความรู้ใหม่อันมหาศาลทางวิทยาศาสตร์ของมนุษย์โลก เอาแบบง่ายๆ ถ้าทำสำเร็จจะเป็นพื้นฐานของการทำเครื่อง Time Machine แต่ถ้าสำเร็จจริงผลเสียที่ตามมา ที่มีกลุ่มคนต่อต้านกันอยู่คือ มันเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก การประเมินผลเสียที่เกิดขึ้นเป็นแค่การสมมุติฐานและคำนวนตามทฤษฎีเท่านั้น จึงเป็นไปได้ทั้งสองทางคือ อาจจะเป็นผลที่ดีมาก หรือผลเสียมากต่อมนุษยชาติก็ได้ ดีก็ดีไปแต่ข้อเสียก็คือ การทำให้อะไรสักอย่างบนโลกใบนี้เร็วในระดับไปแตะก้นความเร็วแสงได้จริงมัน อาจทำให้เกิดหลุมดำขนาดหนึ่งขึ้นมาได้ และอาจจะดูดกลืนทุกสิ่งบนโลกใบนี้ให้หายไปเลยก็ได้ครับ ทั้งผลร้ายและผลดีนั้น คำนวนตามทฤษฎีของนักวิทยาศาสตร์ทั้งนั้นครับ ซึ่งไม่เคยมีใครมีประสบการณ์ในการทดลองจริงได้สำเร็จ
เพิ่มเติม
CERN ได้ประกาศเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมาว่าจะเดินเครื่องเร่งอนุภาค Large Hadron Collider (LHC) ในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ข่าวนี้มาพร้อมกับระยะทำเครื่องให้เย็นหลังจาก CERN ได้ประสบความสำเร็จในการข้อสรุปในการเดินเครื่องเร่งอนุภาคตัวใหม่ สถานีโทรทัศน์ได้ทำรายงานครอบคลุมตั้งแต่การเริ่มเดินเครื่องผ่านทางสถานี Eurovision LHC เป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่มีกำลังมากสุดในโลก สร้างลำแสงอิเล็กตรอนที่มีพลังงานมากกว่า 7 เท่าของเครื่องเก่า และมีความเข้มมากกว่า 30 เท่าเมื่อไปถึงประสิทธิภาพที่คาดหวังไว้ในปี 2010 อุโมงค์ขนาด 27 กิโลเมตรที่เป็นท่อลำแสง LHC อิงเทคโนโลยีที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เครื่อง LHC ในปัจจุบันจึงเปรียบเสมือนเครื่องต้นแบบในตัวมันเอง
สิ้นเดือนกรกฎาคม งานทั้งหมดใกล้จะเสร็จสมบรูณ์แล้วกับเครื่องยิงอนุภาค 8 ส่วนที่มีอุณหภูมิในการทำงานอยู่ที่ 1.9 องศาเหนือจุดเยือกแข็งสมบูรณ์ (-271°C) ระยะต่อไปขอการทำงานคือการทำเชื่อมต่อ LHC กับเครื่องเร่ง Super Proton Synchrotron (SPS) ที่จะมารวมเป็นส่วนเชื่อมต่อสุดท้ายของห่วงโซ่การยิง ของ LHC เวลาระหว่างเครื่องทั้ง 2 ต้องมีความแม่นยำในระดับส่วนเสี้ยวของนาโนวินาที การทดสอบการเชื่อมต่อจะเริ่มในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ และการยิงลำแสงอิเล็กตรอนที่สองแบบหมุนตามเข็มนาฬิกา จะเริ่มในสัปดาห์ถัดไป การทดสอบจะทำเรื่อยจนถึง 9 กันยายน เพื่อแน่ใจว่าเครื่องพร้อมที่จะเร่งและทำให้เกิดการชนของแสงอิเล็กตรอนที่ ยิงไปที่มีระดับพลังงาน 5 TeV ต่อลำแสง ซึ่งเป็นพลังงานเป้าหมายในปี 2008 นี้ และลำแสงที่จะวิ่งวนภายใน LHc อย่างเป็นทางการนี้คือวันที่ 10 กันยายน 2008 ซึ่งจะใช้พลังงาน 450 GeV (0.45 TeV)
เมื่อการโคจรของลำแสงอิเล็กตรอนเสถียรแล้ว นักวิจัยก็จะนำเข้าสู่ระยะการชนและสุดท้ายก็จะเร่งระบบ LHC ให้เร่งพลังงานไปถึง 5 TeV
CERN ได้ประกาศเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมาว่าจะเดินเครื่องเร่งอนุภาค Large Hadron Collider (LHC) ในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ข่าวนี้มาพร้อมกับระยะทำเครื่องให้เย็นหลังจาก CERN ได้ประสบความสำเร็จในการข้อสรุปในการเดินเครื่องเร่งอนุภาคตัวใหม่ สถานีโทรทัศน์ได้ทำรายงานครอบคลุมตั้งแต่การเริ่มเดินเครื่องผ่านทางสถานี Eurovision LHC เป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่มีกำลังมากสุดในโลก สร้างลำแสงอิเล็กตรอนที่มีพลังงานมากกว่า 7 เท่าของเครื่องเก่า และมีความเข้มมากกว่า 30 เท่าเมื่อไปถึงประสิทธิภาพที่คาดหวังไว้ในปี 2010 อุโมงค์ขนาด 27 กิโลเมตรที่เป็นท่อลำแสง LHC อิงเทคโนโลยีที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้เมื่อ 30 ปีที่แล้ว เครื่อง LHC ในปัจจุบันจึงเปรียบเสมือนเครื่องต้นแบบในตัวมันเอง
สิ้นเดือนกรกฎาคม งานทั้งหมดใกล้จะเสร็จสมบรูณ์แล้วกับเครื่องยิงอนุภาค 8 ส่วนที่มีอุณหภูมิในการทำงานอยู่ที่ 1.9 องศาเหนือจุดเยือกแข็งสมบูรณ์ (-271°C) ระยะต่อไปขอการทำงานคือการทำเชื่อมต่อ LHC กับเครื่องเร่ง Super Proton Synchrotron (SPS) ที่จะมารวมเป็นส่วนเชื่อมต่อสุดท้ายของห่วงโซ่การยิง ของ LHC เวลาระหว่างเครื่องทั้ง 2 ต้องมีความแม่นยำในระดับส่วนเสี้ยวของนาโนวินาที การทดสอบการเชื่อมต่อจะเริ่มในวันที่ 9 สิงหาคมนี้ และการยิงลำแสงอิเล็กตรอนที่สองแบบหมุนตามเข็มนาฬิกา จะเริ่มในสัปดาห์ถัดไป การทดสอบจะทำเรื่อยจนถึง 9 กันยายน เพื่อแน่ใจว่าเครื่องพร้อมที่จะเร่งและทำให้เกิดการชนของแสงอิเล็กตรอนที่ ยิงไปที่มีระดับพลังงาน 5 TeV ต่อลำแสง ซึ่งเป็นพลังงานเป้าหมายในปี 2008 นี้ และลำแสงที่จะวิ่งวนภายใน LHc อย่างเป็นทางการนี้คือวันที่ 10 กันยายน 2008 ซึ่งจะใช้พลังงาน 450 GeV (0.45 TeV)
เมื่อการโคจรของลำแสงอิเล็กตรอนเสถียรแล้ว นักวิจัยก็จะนำเข้าสู่ระยะการชนและสุดท้ายก็จะเร่งระบบ LHC ให้เร่งพลังงานไปถึง 5 TeV
เอาล่ะ...ตอนนี้ BBC กำลังถ่ายทอดสดอยู่...
อ้อ เกือบลืม มีสิ่งนี้อยู่ใน YouTube ด้วยนะ เป็นคลิปของนักศึกษาที่ไปฝึกงานโครงการนี้ ถ่ายคลิปออกมา แล้วทำแร็ปประกอบ สนุกดี ดูแล้วเข้าใจมากขึ้นนิดหน่อย
น่าจะมีใครทำอะไรแบบนี้กันเยอะๆ นะ สนุกดี ^^
7 comments:
น่าสนใจมากสำหรับการทดลองนี้
ติดตามมาแล้วพอสมควร
วันที่ 10 ก็ลุ้นอยู่ไม่น้อย
แต่เมื่อเช้าก็เป็นที่น่าเสียใจเหมือนกันที่มีคนติดตามข่าว(เป็นชาวต่างชาติ) แล้วคิดมากว่าจะเกิดหลุมดำ จนกินยาฆ่าตัวตายเลย
เสียดายแทนเค้าจิงๆ..ว่าน่าจะรอดูวิทยาศาสตร์ที่ก้าวไปข้างหน้า
เพลิน
มีข่าวนั้นด้วยเหรอ พอดีช่วงนี้ไม่ได้ดูข่าวเลย
คิดอีกทางหนึ่ง บางทีชีวิตหลังความตายของพี่คนนั้น อาจได้พบบางอย่าง ที่วิทยาศาสตร์ยังก้าวไปไม่ถึงก็ได้นะ..
ที่ญี่ปุ่นมี SPring-8 เป็น ring เร่งอนุภาคอิเล็กตรอน ไปทำการทดลองบ่อยอยู่ แต่คงสู้ที่ CERN ไม่ได้
ปล. (นอกเรื่อง) อ่านอูโก้ กาเบรต์จบแล้วชอบมากเลยค่ะ มีหนังสืออะไรดีๆ อย่าลืมโพสต์อีกนะคะ
อืมมมมมมมม
น่าคิดดี...
ดูๆไปก็น่ากลัวนะครับ กลัวในความอยากรู้อยากเห็นนี่แหละ... ถึงแม้มันจะสำเร็จ แต่เหรียญมันก็มีสองด้านเสมอๆ เฮ้อ!
การทรงสร้างของพระเจ้าเป็นจริง
และการทรงสร้างของพระองค์ทรงสมบูรณ์และดีเลิศ
แล้วทำไมต้องทดลองบนพื้นโลก
ทำไมไม่สร้างห้องทดลองใหม่
อย่างในหนังไง ไปทดลองกลางทะเลทราย
หรือไม่ก็ไปนอกโลกเลย จะเจอกับสภาวะเป็นจริง
แล้วเขาจะรู้ว่าการเกิดไม่ได้ง่ายและเรื่องบังเอิญไม่มีจริง
การระเบิดในสภาวะที่สมบูรณ์ภายนอกโลกไม่ง่ายเลย
แล้วเมื่อโลกเกิดขึ้นจะเกิดเส้นวงโคจรได้ทันทีเลยเหรอ
พระเจ้าสร้างโลกก่อนแล้วจึงสร้างทุกอย่างให้สมดุลกัน
เพราะว่าพระเจ้าสร้างทุกอย่างมาเพื่อโลก
ไม่ได้สร้างมาเพื่อดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์
เพราะสิ่งเหล่านั้น ไม่มีสิ่งมีชีวิต
Post a Comment