Friday, August 7, 2009

A Love Less Ordinary: COFFEE TALK AT LUR CAFE


ได้รับคำชวนจากป้าๆ (นำขบวนโดย ป้าแอ และ ป้าหม่าว)
ให้ไปพูดเรื่อง 'ความรัก' ที่ร้านใหม่ของป้าแอ ชื่อ Lur Cafe (โลโก้สวย)
คณะป้าๆ นี้ก็ถือเป็นญาติผู้ใหญ่ในเชียงใหม่
ต้อนรับขับสู้ แล้วก็มีมิตรภาพที่ดีต่อกันเสมอมา
ป้าเอ่ยปาก หลานก็ยินดีรับคำ แม้เรื่องที่ต้องไปคุยกันจะเป็นเรื่องยากมากก็ตาม -_-'
ใครว่างๆ ก็ขอเชิญชวนไปร่วมพูดจากัน บ่ายโมงตรงเป็นต้นไป

โปสเตอร์นี้ทำให้ป้าๆ เป็นครั้งแรกที่ได้ลองทำงานที่ 'เยอะๆ' (ทุกทีทำแต่น้อยๆ)
ก็สนุกสนานเบิกบานใจดี ลุ้นอยู่นานว่าป้าๆ จะชอบหรือเปล่า

+ Lur Cafe อยู่นิมมานท์ซอย 9 ด้านท้ายซอย ^^

39 comments:

pink said...

ขออนุญาตแปะต่อที่บล็อกด้วยนะคะ

^ ^

PJ said...

อยากไปอ่ะ >__<

Anonymous said...

อยากฟังมุมมองความรักของพี่โจ้จัง...

ขี้เกียจบอก said...

น่าไปมาก ๆ

ae said...

^^;

รสกาแฟคงนุ่มนุ่มขมขม

วชิรา said...

ผ่านไปแล้ว...ด้วยดี
ตื่นเต้นปนงงๆ แต่ก็เพลินดี

อยากพูดไอ้ที่คิดอยู่ให้ฟังเหมือนกันนะ
เผื่อจะได้แลกเปลี่ยน

เอาไงดี..ไม่ได้อัดเสียงไว้ด้วยสิ

kissikisskiss said...

จิบรักรสกาแฟ...กาแฟทำให้เรานอนไม่หลับและ
"หัวใจเต้นแรง" :P

วชิรา said...

ใช่ๆ ใช่ๆ
ถ้ากาแฟมัน "เข้มไป"

^^

kissikisskiss said...

ใครหว่าดื่ม Black coffee แถมยังชอบลองกาแฟใหม่ๆ Packaging ดึงดูดใจด้วย lol

ขี้เกียจบอก said...

ไปไม่ทัน = =

Anonymous said...

เรื่องเกี่ยวกับ "ความรัก" ทีไร
คนมา comment เยอะทุกที
ปรากฏการณ์นี้บอกอะไรเราหนอ

กับข้อความที่ว่า

อยากพูดไอ้ที่คิดอยู่ให้ฟังเหมือนกันนะ
เผื่อจะได้แลกเปลี่ยน
เอาไงดี..ไม่ได้อัดเสียงไว้ด้วยสิ

คุณวชิราก็เขียนให้อ่านสิจ๊ะ
เชื่อว่ามีต้องมีหลายคน
รออ่านและแลกเปลี่ยนอยู่

anchalee said...

เล่าดิๆ
อยากฟัง
เอาแบบไม่มึนนะ

!

+KEY

วชิรา said...

เคยคิดว่าจะเขียนเหมือนกันครับ
แต่คิดแล้วก็ได้ความว่า
มันมีเรื่องที่เกี่ยวโยงกันมากกกกกกก
น่าจะมากเกินกว่าจะเขียนออกมาสั้นๆ ได้

เลยยังไม่รู้จะทำยังไงกับมันดี

; (

Anonymous said...

>> เสียดายไม่ได้ ฟัง T_T อยาก รู้ เหมือน กัน น่า จะ เขียน ให้ อ่าน นะ

Anonymous said...

คุณวชิราก็เขียนเถอะค่ะ
สามารถอยู่แล้ว
เพราะหากจะเล่าให้ฟังทุกคน
คงเป็นไปไม่ได้
ถ้ามีเรื่องที่เกี่ยวโยงกันมากกกกกกกกก
ก็ไม่ต้องเขียนสั้นก็ได้นิคะ

Anonymous said...

สุขสันต์วันแม่นะจ๊ะคุณวชิรา
แล้วหาแม่ของลูกได้รึยังเอ่ย

^^

Anonymous said...

ถ้าไม่กินกาแฟเลยล่ะ...
ความรักมันจะไม่มีด้วยรึป่าว...
(ก็กาแฟมันขมอ่ะ??)

Anonymous said...

กาแฟอ่ะ เค้าต้องกินทุกวัน
มันทำให้ตื่นตัว ไม่เฉา--
ที่สำคัญ เหมาะกับลำไส้ และการขับถ่ายตอนเช้า
เยี่ยม!

แต่ก็นะ ถ้าเข้มไป มันจะใจสั่น นอนไม่หลับ กระสับกระส่าย
เพ้อ ฝันถึง 55 +

ก็ถ้ามันมีเรื่องที่เกี่ยวโยงกันมากกกกกกก..,มากมาย ...ก็ค่อยๆละเลียดๆ เขียนมันออกมาดิ
เล่นตัวนะ

เค้าเป็นแฟนคลับ สไตล์ รอได้
กรี๊ด! ZZZZZZZZZZZZ

(แมงสาป บินผ่าน)

+KEY

วชิรา said...

อืม..คึกคักจริงๆ ด้วย
เรื่องนี้ทีไร เรียกแขกทุกที

เอายังไงดี
เขียนเป็นคำถามแล้วตอบทีละอันดีมั้ย?
ถ้าดี เดี๋ยวจะเปิด post ใหม่ให้เลย

^^

Anonymous said...

คุณวชิราเค้าเปิดทางแล้ว
เอ้า เร้วววววววววววววววว
มาตั้งคำถามให้เค้าตอบกัน

แต่จริงๆอยากอ่านก่อน
เรื่อง"ความรัก"
ในมุมมองของคุณวชิรา
แล้วค่อยคั้งคำถามหล่ะ

Anonymous said...

กร๊ากก..

ถามแล้ว จะตอบตรงคำถามป่ะ??

+KEY

วชิรา said...

อืม...เอาไงดี

Dark Apple said...

อย่าคิดมากเลยนะจ๊ะพี่โจ้
เพราะช่วงนี้ลุงคงอยู่ในช่วงเห็นไรเป็นสีชมพูไปหมด
(โหมดนี้น่าอิจฉาชะมัดเลยอ่ะ)
เขียนมาเต๊อะ อยากอ่านเหมือนกันหน่ะ
เพราะลุงชอบมีมุมมองแปลกๆ ที่คาดไม่ถึง

ป.ล. นู๋เปิ้ลเองคับ แอบแว๊บงานมาเม้นท์ อิอิ

Anonymous said...

ช่าย ช่าย เขียนมาเต๊อะ
รออ่านกันอยู่เพียบ

ยินดีกับคุณวชิราด้วยเน้อ
ที่ได้เข้าสู่ภาวะโลกสีชมพูซะที
เห็นเหงาเปล่าเปลี่ยวมานาน
และแล้วความรักก็มาทำให้โลกสดใสนิ
ใครคือสาวผู้โคดีน๊า...อิจฉาจัง

^^

Anonymous said...

กรี๊ด กรี๊ด
ขอแก้คำผิดค่ะ

ใครคือสาวผู้โชคดีน๊า...
มิใช่
สาวผู้โคดีอ่ะ -_-'

^^ & *^^* (กระต่ายมีคู่..อิอิ)

Anonymous said...

ดีใจด้วยค่ะที่ช่วงนี้โลกของคุณกระต่ายกลายเป็นสีชมพู

Anonymous said...

อูยยยยยย...

อกหักเลย..

55

รีบๆ เขียนสิ อารมณ์กะลังได้อยู่

KEY+

Anonymous said...

"ความรัก"ในมุมมองของวชิรา

น่าอ่านจัง
ปูเสื่อรอเลยนะเนี่ย

เขียนเถอะจ๊ะ
ไม่ต้องกลัวเรทติ้งตกหรอก
มีแต่คนยินดีด้วย
ที่คุณวชิรากำลังมีความรัก
วิ้วววววววววววววววววววว

วชิรา said...

เอา...เอาเข้าไป

ถ้าโลกของใครมีสีเดียว ผมว่าคนๆ นั้นมีปัญหาแล้วละครับ
โดยเฉพาะถ้ามันเป็นสีแบบสีชมพูอะไรนั่น

ถ้ายังนึกไม่ออก ก็ดูสงครามสีในบ้านเราตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ได้นะ นั่นน่าจะเป็นตัวอย่างของโลกสีเดียวได้ดี

ความจริงนี่อาจจะเป็นเรื่องที่น่าคุยเรื่องแรกของเรื่องความรักก็ได้นะ..ว่ามั้ย

มันจะเป็นไปได้ยังไงที่โลกของคนๆ นึงจะเป็นสีเดียว แบบเดียว หรือมีเรื่องที่บรรจุอยู่เรื่องเดียว ในเวลาที่เราสนใจเรื่องความรัก เรื่องอื่นๆ ในโลกนี้ก็กำลังเคลื่อนตัวไปของมัน การเมือง กีฬา หรือเรื่องใกล้ตัวที่สำคัญมากอย่างเรื่อง หน้าที่ หรือเรื่องการทำมาหากิน ฯลฯ

หรือบางทีเราแค่ไม่อยากยอมรับความจริง แล้วก็หนีหัวซุกหัวซุนเข้าไปหาเรื่องความรัก แล้วก็สั่งมันว่า "แกต้องปกป้องดูแลชั้นนะ เพราะว่าชั้นนั้นบอบบางเหลือเกิน"

ปัญหาก็เกิดขึ้นเวลาที่เราสั่งมันไม่ได้

จริงๆ เรื่องนี้ก็สร้างปัญหากับทุกๆ เรื่องนะครับ
เพราะในชีวิตจริงก็มีหลายเรื่องที่เราสั่งมันไม่ได้ แต่ดูเหมือนเราจะยอมรับกับเรื่องเหล่านั้นได้มากกว่า

เราจะบังคับอะไรในชีวิตได้ยังไง ในเมื่อเรื่องนั้นๆ มันสัมพันธ์กับเรื่องอื่นๆ อยู่ด้วย

สังเกตว่าเวลาพูดเรื่อง ความรัก ทีไร มันจะกลายเป็นเรื่อง 'ใหญ่มาก' ของคนเราทุกที หนำซ้ำเวลาพูดเรื่องนี้ มันก็กลายเป็นเรื่องของ 'อารมณ์ความรู้สึก' อย่างเดียว โดยไม่ยอมให้ความเป็นเหตุเป็นผลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเลย

ผมคิดว่าความเป็นเหตุเป็นผลที่แหละ ที่แสดงการมีอยู่ของ ความรัก เพราะมันทำให้เรารู้ว่าความรักนั้นไม่ได้อยู่ได้ด้วยตัวมันเองโดดๆ แต่ตัวมันเองนั้นสัมพันธ์กับเรื่องอื่นๆ อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะกับวิถีชีวิต และทัศนคติการใช้ชีวิตของคนนั้นๆ

เอาเท่านี้ก่อนนะ ช่วงอาทิตย์นี้ยุ่งมาก

^^

ปล ถ้าอ่านตัวหนังสือเข้าใจ คงพอรู้ได้เองนะครับว่าเรื่องนี้มันโยงไยซับซ้อนจริงๆ ไม่เกี่ยวกับเรื่องเรตติ้งหรืออะไรอื่นเลย

คราวหน้าคุยเรื่อง ความอยากรู้อยากเห็น กับความรักดีมั้ย? ; P

Anonymous said...

อะโห ยาวมากกกกกกกกกก
แถมยังหวานซะเหลือเกิ๊น
สมใจอยากเลยมั๊ยครับพี่น้อง

สมแล้วที่เป็นเรื่อง "ความรัก"
ของท่านวชิราเค้า
เจ็บ......เชียว

ไม่รู้ว่าแค่ถามกวนๆหรือป่าว
...
คราวหน้าคุยเรื่อง ความอยากรู้อยากเห็น กับความรักดีมั้ย? ; P
...

ก็เอาสิจ๊ะ จะรออ่าน ^^

Anonymous said...

ขอแลกเปลี่ยนนะ

ใครมันจะไปมีโลกสีเดียวได้ละคะคู๊ณณณ
เค้าก็แค่อุปมาอุปไมยกันก็เท่านั้น

หัดรื่นรมย์กับชีวิตไว้บ้าง
ไม่ใช่อะไรอะไรก็เครียดไปหมด

มี'ความรัก'มันไม่ดีตรงไหน
แล้วก็การมี'ความรัก'มันก็ได้หมายความว่า
จะทำให้เราสนใจสิ่งต่างๆของโลกน้อยลง
'ความรัก'มันอาจเป็นพลังที่มองไม่เห็น ให้เราสนใจ ใส่ใจสิ่งรอบข้างมากขึ้นก็ได้

และแน่นอนมันก็ต้องเชื่อมโยงกับสิ่งต่างๆมากมายในชีวิต ซึ่งการเชื่อมโยงนั้นเป็นได้ทั้งทางดีขึ้นและแย่ลง

แต่เราเชื่อว่า เมื่อเราสุข เราก็มีพลังที่จะมอบความสุขไปในส่วนอื่นๆของสังคมได้ เหมือนมีตังค์ ก็สามารถทำให้กลไกตลาดมันเคลื่อนไหวด้วยการไปจับจ่ายใชสอย

แต่ก็แน่นอนละ ทุกเรื่องมันก็ไม่ได้มีเพียงด้านเดียว สำหรับเรายอมรับได้ว่า'ความรัก'มันก็สามารถทำให้เราสุขและทุกข์และก็อื่นๆได้เหมือนกับทุกเรื่องในชีวิต
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเข้าใจ และนำผลไปใช้ให้เกิดผลที่ดีที่สุดกับตนเอง สังคมและโลกได้อย่างไร

และโปรดอย่าสรุปว่า คนอื่นเค้าใช้แต่อารมณ์ความรู้สีก
กันอย่างเดียว ทุกคนก็คงใช้อารมณ์ความรู้สึกและเหตุและผลผสมผสานกันนั่นแหล่ะ แล้วแต่สัดส่วนของใครของมัน และเหตุและผลของแต่ละคนก็ใช่ว่าจะเหมือนกันซะเมื่อไร

ถ้าคุณวชิรา ไม่เข้าใจ กับ'ความรัก'กับคน
ก็คงจะเข้าใจดี กับ 'ความรัก' กับงานบ้างละนะ

หวังว่าวันใดวันหนึ่งคงจะมีความสุขที่ได้รักและได้ถูกรักนะ (และวันนั้นคุณวชิราก็คงจะรู้ว่ามันไม่ได้ทำให้คุณหลงลืมสิ่งต่างที่กำลังเคลื่อนไหวของโลกได้หรอก)

และก็สุดท้าย การที่คนเค้าสนใจ ใส่ใจคุณ มันแรงไปนะกับการที่คุณเรียกว่า 'ความอยากรู้อยากเห็น'

Anonymous said...

โอ..แรงๆ นะ พี่เครียดมั้ย ช่วงนี้

มัน ..มีอะไรผิดพลาดระหว่างการสื่อสารหรือเปล่า?

มองความรักดีๆ มันก็เป็นก้อนพลังงานให้กับจิตใจที่ดี
ตราบใดที่เรารักอย่างลืมหูลืมตา~ อาจจะ หมายถึง เหตุผลและอารมณ์ผสมกันในสัดส่วนที่ลงตัว

เค้าก็ไม่เคยเห็นคนมีความรักจะอยู่ในวิมานสีชมพูซะที่ไหน
คนพวกนั้น ก็ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป เราว่าพี่คิดเยอะไปนะ
(มันออกแนวลบๆ ด้วย) เครียดไปนะ พักนี้ดูมันแรงๆ พักผ่อนบ้างนะ ถ้ามีเวลา

KEY+

Anonymous said...

>> ฮิฮิ้ว วว วว ดีใจ ด้วยคน สำหรับความรัก ที่เข้ามา ค่า ^^

Anonymous said...

บังเอิญไปงานมาค่ะ

คุณวชิรา คือ ผู้ชายที่พูดเรื่องความรัก
คนที่ใส่ผ้าใบสีแสดเหรอคะ

เรื่องที่พูดในวันงาน สร้างมุมมองที่แปลกออกไปในเรื่องของการกระทำเมื่อคุณมีความรัก ได้อย่างอึ้งๆ

ว่า โดยทั่วไปผู้หญิงจะตื่นเต้นดีใจ ซาบซึ้งจับใจ
กับการที่คนรักซื้อดอกไม้ให้ซักช่อ

คุณวชิราให้ความเห็นว่า มันดูยิ่งใหญ่และยากตรงไหนกับการที่คนๆนึงทำสิ่งนี้ให้คนที่รัก

ทิ้งไว้แค่นั้น ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรต่อ

งั้น ถามได้รึเปล่าคะว่า ในมุมมองของคุณวชิรา สิ่งที่ดูยิ่งใหญ่และยากสำหรับความรัก คืออะไร
(กะยกมือถามในงานแล้ว แต่คนเยอะเกรงใจ)

ญP.

Dark Apple said...

ลุง เราไม่ได้อยากรู้อยากเห็นเรื่องความรักของลุงนะ
แต่แค่อยากรู้มุมมองของลุงและใครหลายๆคนบนโลกใบนี้เท่านั้นเองอ่ะ

คนเรามีมุมมองที่ต่างกัน เหมือนเอาคน 5 คน มานั่งล้อมเทียนหนึ่งแท่ง คน 5 คน ก็อาจเห็นสีของเปลวเทียนที่แตกต่างกันไปอ่ะ

อย่าถือว่าเป็นความอยากรู้อยากเห็นเลยนะจ๊ะ ถือเป็นการเปิดมุมมองให้กับใครบางคนหรือหลายๆคนที่เค้าไม่เคยนึกถึงมุมมองนี้มาก่อน ในแบบของลุงอ่ะ เพราะบางทีคนเราก็นึกไม่ถึงสิ่งนั้นเหมือนกัน บางทีเปิ้ลยังนึกไม่ถึงเลยเหมือนกัน ว่ามีมุมมองแบบนี้ด้วยเหรอ คิดได้ไงอ่ะ ประมาณนั้น^^

ช่วงนี้งานเยอะ พักผ่อนมากๆนะ ดูแลสุขภาพด้วยนะจ๊ะ

ป.ล. ข้อความลุงแอบมีจิกกัดเล็กน้อย ถ้าไม่มีก็ไม่ใช่สไตล์วชิราอ่ะนะ =D

Anonymous said...

อยากคุยเรื่องความรักดีค่ะ

...*


: )

Anonymous said...

งานเข้าครับพี่น้อง อย่าเครียดกันเลยนะ ตอนแรกยังชิวๆ วี๊ดวิ้วกันอยู่เลย ทำไมมัน "ม้วน" ออกเป็นความมาคุแบบนี่หล่ะ เอาเถอะนะก็อาจจะมองกันคนละมุมแต่ก็คุยกันเรื่องเดียวกันหล่ะนะพี่น้อง อย่าคิดมากหรือถือเป็นเรื่องส่วนบุคคลกันนะคะ รักกันไว้เถิดค่ะ

kissikisskiss said...

555 พี่โจ้!

วชิรา said...

ผมคงไม่เหมาะจะคุยเรื่องนี้จริงๆ แฮะ
คุยไปก็รังแต่จะถูกลากเข้าไปเป็นเรื่องส่วนตัว
มากกว่าการแสดงความคิดความเห็นจริงๆ
เวลาเลือกใช้คำอะไรก็ดูจะผิดหูไปเสียหมด
เกรงว่าถ้าคุยกันต่อก็ต้องมาคอยอธิบายความยิบย่อยต่างๆ ไม่จบไม่สิ้น

เราคุยกันเรื่องอื่นดีกว่านะ
เรื่องนี้ก็ต่างคนต่างคิดไปละกันนะครับ

ขอบคุณและขออภัยคุณ ญP. ด้วยนะครับ

^^