มีหนังสือเล่มนึงอยากชวนอ่าน
ชื่อ 365 ways to change the world โดย Michael Norton
เป็นคล้ายไดอารี่สนุกๆ แต่จริงจัง เนื้อหาโดยรวมก็เหมือนชื่อเล่มคือเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกในทางที่ดีขึ้นได้อย่างไร
ซื้อมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง จากที่เมื่อก่อนซื้อแต่ This Diary will Change your life (เล่มนี้ก็ดีนะ เขาจะคอยบอกให้ว่าวันนี้ทำอะไร น่าสนใจตรงที่สามารถหามุมต่างๆ มาให้เรามองได้บ้าๆ บอๆ แบบสุดโต่ง ซึ่งคงทำตามจริงๆ ไม่ได้ทุกอันหรอก แต่ในแง่ของ 'มุมมอง' ที่ต่างออกไปจากชีวิตเดิมๆ ก็ถือว่าสนุกดี และคงเป็นปัญหาเดียวกันทั้งโลกไม่ว่าฝรั่งหรือไทย คือช่วงหลังๆ เริ่มซ้ำๆ วนๆ ไม่สดชื่นเท่าเล่มปีแรกๆ) ปีนี้เลยมาอ่านเล่มนี้ด้วย
เนื้อหาก็แบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ ทั้งหมดครอบคลุมอยู่ในมิติของการเปลี่ยนแปลงให้กับโลก ในทิศทางที่เขาเชื่อว่าน่าจะดีขึ้น
อย่างเมื่อวาน (มีนา 24) ก็เป็นเรื่อง fairtrade chocolate ในกาน่า คร่าวๆ ก็คือว่ากาน่าเป็นประเทศที่มีเคยมีผลผลิตโกโก้เป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่ปัญหาก็คือว่าเกษตรกรได้รับผลส่วนแบ่งการผลิตจากหน่วยงานจัดซื้อของรัฐน้อย จึงทำให้เกิดวิกฤตในเวลาต่อมาก็เลยมีองค์การการค้าที่ผดุงความยุติธรรมเกิดขึ้น สร้างยี่ห้อช็อกโกแล็ตขึ้นมาและเขาก็ให้เราช่วยๆ กันเป็นสายสืบว่าในท้องถิ่นของเรานั้นมีช็อกโกแล็ตยี่ห้อนี่วางขายอยู่หรือไม่ ถ้าไม่มีก็ให้ช่วยกันพยายามทำให้มี อะไรทำนองนั้นเพราะเขาบอกว่า ถ้าซื้อช็อกโกแล็ตยี่ห้อนี้ก็เท่ากับช่วยเกษตรกรโกโก้ที่กาน่านั่นเอง
แม้จะเป็นการฟังความข้างเดียว (เพราะเราไม่ได้ฟังจากฝ่ายรัฐบาลกาน่าเลย) และแม้เรื่องนี้จะโยงไยไปถึงการดำเนินการทางธุรกิจ บางคนก็สงสัยว่านี่เป็นเพียงการสร้างธุรกิจ 'สีเขียว' ซึ่งเป็นที่นิยมแพร่หลายในปัจจุบัน แต่การได้รับรู้เรื่องวิกฤตของเกษตรกรโกโก้ในกาน่าก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรือ ส่วนใครจะไปติดตามต่อเนื่อง สืบหาค้นคว้า ก็ยิ่งดีใหญ่ และอาจจะทำให้การซื้อช็อกโกแล็ตครั้งต่อไปของหลายๆ คนอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปก็ได้
ส่วนวันนี้ (มีนา 25) เป็นเรื่องสวนสัตว์ เขาอยากให้เราช่วยๆ กันจับตาดูว่าสวนสัตว์ในแต่ละท้องถิ่นของเรานั้นดูแลและจัดการกับสัตว์ดีพอหรือไม่ ถ้าไม่ดีก็ให้ถ่ายรูปไว้แลัวส่งไปที่เว็บไซต์ จากนั้นก็จะมีคนดำเนินการต่อ(เดี๋ยวว่ากลับขึ้นไปเชียงใหม่ จะเริ่มต้นที่ไนต์ซาฟารีก่อน!!)
ทุกๆ เรื่องในหนังสือนี้มีเว็บไซต์ให้เสมอ มันเลยไม่จบอยู่แค่ในกระดาษ!
บางทีเราอาจต้องช่วยกันเพลาๆ วิธีมัดใจชาย พิชิตใจหญิง กันลงบ้าง (ไม่ต้องเลิกนะ แค่เพลาๆ ก็พอ!) และเพิ่มสัดส่วนของการดูแลใส่ใจโลกและคนอื่นในชีวิตเราให้มากขึ้น
เพราะถ้าโลกร้อนขนาดนี้ เกิดภัยธรรมชาติมากมายขนาดนี้ อากาศแย่ขนาดนี้ต่อไปจะไปโรแมนติกกันที่ไหนหรือ?
ข้างหลังหนังสือเขียนว่า
This world could be a lot better, right?
Something needs to be done by someone-anyone.
Why not you?
หมายเหตุ
1 ถ้าหาซื้อไม่ได้ ลองเข้าไปดูเล่นที่นี่ก่อนก็ได้ (แต่คนละเนื้อหานะ)
www.365act.com
2 สำหรับคนที่สนใจเรื่องช็อกโกแล็ต
www.dubble.co.uk
www.divinechocolate.com
3 สำหรับคนที่สนใจเรื่องสวนสัตว์
www.bornfree.org.uk
ชื่อ 365 ways to change the world โดย Michael Norton
เป็นคล้ายไดอารี่สนุกๆ แต่จริงจัง เนื้อหาโดยรวมก็เหมือนชื่อเล่มคือเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกในทางที่ดีขึ้นได้อย่างไร
ซื้อมาเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง จากที่เมื่อก่อนซื้อแต่ This Diary will Change your life (เล่มนี้ก็ดีนะ เขาจะคอยบอกให้ว่าวันนี้ทำอะไร น่าสนใจตรงที่สามารถหามุมต่างๆ มาให้เรามองได้บ้าๆ บอๆ แบบสุดโต่ง ซึ่งคงทำตามจริงๆ ไม่ได้ทุกอันหรอก แต่ในแง่ของ 'มุมมอง' ที่ต่างออกไปจากชีวิตเดิมๆ ก็ถือว่าสนุกดี และคงเป็นปัญหาเดียวกันทั้งโลกไม่ว่าฝรั่งหรือไทย คือช่วงหลังๆ เริ่มซ้ำๆ วนๆ ไม่สดชื่นเท่าเล่มปีแรกๆ) ปีนี้เลยมาอ่านเล่มนี้ด้วย
เนื้อหาก็แบ่งเป็นหมวดหมู่ต่างๆ ทั้งหมดครอบคลุมอยู่ในมิติของการเปลี่ยนแปลงให้กับโลก ในทิศทางที่เขาเชื่อว่าน่าจะดีขึ้น
อย่างเมื่อวาน (มีนา 24) ก็เป็นเรื่อง fairtrade chocolate ในกาน่า คร่าวๆ ก็คือว่ากาน่าเป็นประเทศที่มีเคยมีผลผลิตโกโก้เป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่ปัญหาก็คือว่าเกษตรกรได้รับผลส่วนแบ่งการผลิตจากหน่วยงานจัดซื้อของรัฐน้อย จึงทำให้เกิดวิกฤตในเวลาต่อมาก็เลยมีองค์การการค้าที่ผดุงความยุติธรรมเกิดขึ้น สร้างยี่ห้อช็อกโกแล็ตขึ้นมาและเขาก็ให้เราช่วยๆ กันเป็นสายสืบว่าในท้องถิ่นของเรานั้นมีช็อกโกแล็ตยี่ห้อนี่วางขายอยู่หรือไม่ ถ้าไม่มีก็ให้ช่วยกันพยายามทำให้มี อะไรทำนองนั้นเพราะเขาบอกว่า ถ้าซื้อช็อกโกแล็ตยี่ห้อนี้ก็เท่ากับช่วยเกษตรกรโกโก้ที่กาน่านั่นเอง
แม้จะเป็นการฟังความข้างเดียว (เพราะเราไม่ได้ฟังจากฝ่ายรัฐบาลกาน่าเลย) และแม้เรื่องนี้จะโยงไยไปถึงการดำเนินการทางธุรกิจ บางคนก็สงสัยว่านี่เป็นเพียงการสร้างธุรกิจ 'สีเขียว' ซึ่งเป็นที่นิยมแพร่หลายในปัจจุบัน แต่การได้รับรู้เรื่องวิกฤตของเกษตรกรโกโก้ในกาน่าก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรือ ส่วนใครจะไปติดตามต่อเนื่อง สืบหาค้นคว้า ก็ยิ่งดีใหญ่ และอาจจะทำให้การซื้อช็อกโกแล็ตครั้งต่อไปของหลายๆ คนอาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปก็ได้
ส่วนวันนี้ (มีนา 25) เป็นเรื่องสวนสัตว์ เขาอยากให้เราช่วยๆ กันจับตาดูว่าสวนสัตว์ในแต่ละท้องถิ่นของเรานั้นดูแลและจัดการกับสัตว์ดีพอหรือไม่ ถ้าไม่ดีก็ให้ถ่ายรูปไว้แลัวส่งไปที่เว็บไซต์ จากนั้นก็จะมีคนดำเนินการต่อ(เดี๋ยวว่ากลับขึ้นไปเชียงใหม่ จะเริ่มต้นที่ไนต์ซาฟารีก่อน!!)
ทุกๆ เรื่องในหนังสือนี้มีเว็บไซต์ให้เสมอ มันเลยไม่จบอยู่แค่ในกระดาษ!
บางทีเราอาจต้องช่วยกันเพลาๆ วิธีมัดใจชาย พิชิตใจหญิง กันลงบ้าง (ไม่ต้องเลิกนะ แค่เพลาๆ ก็พอ!) และเพิ่มสัดส่วนของการดูแลใส่ใจโลกและคนอื่นในชีวิตเราให้มากขึ้น
เพราะถ้าโลกร้อนขนาดนี้ เกิดภัยธรรมชาติมากมายขนาดนี้ อากาศแย่ขนาดนี้ต่อไปจะไปโรแมนติกกันที่ไหนหรือ?
ข้างหลังหนังสือเขียนว่า
This world could be a lot better, right?
Something needs to be done by someone-anyone.
Why not you?
หมายเหตุ
1 ถ้าหาซื้อไม่ได้ ลองเข้าไปดูเล่นที่นี่ก่อนก็ได้ (แต่คนละเนื้อหานะ)
www.365act.com
2 สำหรับคนที่สนใจเรื่องช็อกโกแล็ต
www.dubble.co.uk
www.divinechocolate.com
3 สำหรับคนที่สนใจเรื่องสวนสัตว์
www.bornfree.org.uk
9 comments:
ขอบคุณที่เอาเรื่องดีๆ มาแบ่งปันนะจ๊ะ
เข้าไปดูในเว็บไซต์มาแล้ว
คงเป็นอะไรที่สะกิดสะเกาให้จิตสำนึกของเราๆ ทำงานได้ดีทีเดียว
การใช้ชีวิตที่นึกถึงคนอื่นนี่
ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยเนอะ
อย่างน้อยๆ ก็ต้องอยู่บนพื้นฐานของชีวิตที่มีสติ ...รู้ว่าตัวกำลังทำอะไร เพื่ออะไร
นึกถึงของขวัญชิ้นหนึ่งที่เพื่อนทำให้
เขาได้แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง Star Girl มาอีกที
เป็นขวดโหลสองใบ แปะป้ายว่า Happy กับ Unhappy แล้วก็มีลูกแก้วมาให้ถุงหนึ่ง พอหมดวันก็มาหยอดลูกแก้วลงในโหลใดโหลหนึ่ง
แล้วถ้าวันไหนที่เราได้ทำให้คนอื่นได้สุขไปกับเราด้วย จะใส่ลูกแก้วลูกใหญ่ลงไป
อาจจะไม่ได้มีผลกับใครหรืออะไร แต่เราว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตแบบมีสติรู้ตัวนะ
หนังสือที่พี่ว่า จะไปหามาอ่านนะคะ
ดี มาก มาก เชื่อว่ามันสะกิดใจคนที่อ่านทุกคน นี่คงเริ่มจากตัวเองก่อนล่ะ บังเอิญมาก เพิ่งได้อีเมลล์ จากเพื่อนประมาณนี้แหละ...มีอยู่อันหนึ่ง บอกว่า วิธีทำให้ตัวเบาขึ้น โล่งขึ้น...คือ การให้ ไง...
พี่ดีเจ-นักเขียน-นักอ่าน-ฯลฯ-นักต่อนัก-..
อย่างน้อยก็ต้องเริ่มจากตัวเรา..
แล้วถ้าได้รู้จักโลกอีกแบบหนึ่งที่กว้างออกไป..
ลึกลงไป..มันก็จะยิ่งทวีความคุ้มค่าในชีวิต..
ขอบคุณนะ
โอ๋ววว
น่าสนใจจังลุง
ช่าย น่าสนใจ .....แต่ ติดอยู่เรื่องนึง
มันจะดีมากๆเลยนะ ถ้ามีฉบับภาษาไทย...
อยากอ่าน แต่ถ้าอ่าน version นี้ คงต้องใช้เวลานาน กว่าจะอ่านให้มันจบได้...
G ree N new look!
Need to wear my big shades to read your blog from now on...
'....peace out!!'
G*
เคยได้ยินได้อ่านเรื่องเกี่ยวกับหนังสือแบบนี้ในเอเดย์อ่ะ แต่อันนั้นคงของปีก่อนล่ะมั้ง
ไอเดียเค้าดีมากเลยอ่ะ
ดีจริงๆที่พี่โจ้เอามาเขียนแบ่งปันความอยาก(มีไว้ในครอบครองมั่ง)
เจอกันเดือนหน้ายืมดูหน่อยจิ่พี่!
ชะมะพู่
just to make it up to my comment....
here is the web that is REALLY green:nice though, apart from the fact that it's ALL in Le Francais!
http://www.green-is-beautiful.com.fr/
au revoir mon chou!
G*
YuNgYiNg
Star Girl ที่น้องว่า พี่ก็อยากหามาอ่านเหมือนกัน
ฟังดูน่ารักดี น่าแปลกว่าหลายครั้งคนเราก็ต้องพึ่งพากลวิธีต่างๆ ในการกำกับดูแลตัวเอง
ชะมะพู่
เจอกันแล้วเตือนด้วยนะ
G' merci merci ^^
Post a Comment