Wednesday, January 23, 2008

ทะลุหูขวา (9): artist: Animal Collective


Animal Collective

Animal Collective เป็นวงดนตรีทดลองจากนิวยอร์กที่เกิดจากการรวมตัวของนักดนตรี 4 คนจากบัลติมอร์ แมรี่แลนด์ ประกอบด้วย Avey Tare (David Portner), Panda Bear (Noah Lennox), Deakin (Josh Dibb) และ Geologist (Brian Weitz) ซึ่งจะปรากฏชื่อพวกเขาเวลาทำอัลบั้มของ Animal Collective เสมอ ครบทุกคนบ้าง ไม่ครบบ้าง แต่เวลาขึ้นเล่นแสดงสดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ทั้ง 4 คนพบกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมผ่านการแนะนำกันไปกันมาและเริ่มทำเพลงด้วยกันตั้งแต่นั้น เมื่อโตขึ้น Panda Bear กับ Deakin ไปเรียนต่อที่บอสตัน ส่วน Avey กับ Geologist ไปเรียนที่นิวยอร์ก แต่ทุกคนก็ยังทำเพลงอยู่ตลอด ทำด้วยกันบ้าง แยกกันล้าง และสลับคนทำงานกันบ้าง จนออกมาเป็นอัลบั้ม Spirit They're Gone, Spirit They've Vanished (2000-โดยค่ายตัวเองชื่อ Animal) Danse Manatee (2001) กับค่าย Catsup Plate, Hollinndagain (2002) กับ St. Ives และ Campfire Songs (2003) กับ Catsup Plate อีกครั้ง (ซึ่งอัลบั้มนี้บันทึกเสียงจากการเล่นสดที่เฉลียงบ้านในแมรี่แลนด์ โดยไม่มีการเทก! และอัดเสียงด้วย Mini Disc 3 ตัวที่เอามาตั้งรอบๆ วง จากนั้นก็อัดเสียงบรรยากาศรอบๆ บริเวณนั้นใส่เพิ่มเข้าไป จากนั้นนำไปมิกซ์ที่อพาร์ตเม้นท์ของ Avey แล้วค่อยส่งไปทำมาสเตอร์)

หลังจากที่สลับสับเปลี่ยนเวียนช่วยกันทำเพลงอยู่หลายปี ค่ายเพลงก็แนะนำว่าพวกเขาควรจะมีชื่อที่ใช้เรียกรวมๆ เวลาทำงาน จึงเกิดชื่อ Animal Collective ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากค่าย Animal ของพวกเขาเอง ตั้งแต่นั้นมา การรวมวงของ Animal Collective ค่อนข้างประหลาดว่าวงอื่นๆ ทั่วๆ ไป เพราะพวกเขาให้อิสระต่อกันเต็มที่ในการทำงานร่วมกัน บางโปรเจกต์อาจทำกันแค่ 2 คน บางงานอาจทำด้วยกันทั้ง 4 คนก็ได้ ซึ่งขึ้นกับว่าโปรเจกต์ของใครและอารมณ์ของแต่ละคนนั้นเป็นอย่างไร

อัลบั้มแรกที่มีสามชิกครบ 4 คนในชื่อ Animal Collective คือ Here Comes the Indian (2003) ภายใต้ค่าย Paw Tracks ที่พวกเขาตั้งขึ้นเองอีกเช่นกัน (ร่วมกับ Todd Hyman จากค่าย Carpark) และด้วยความประหลาด (ของเพลง) บวกการแสดงที่เข้มข้น (ใกล้เคียงบ้า!) ชื่อเสียงของ Animal Collective ก็กระจายออกไปมากขึ้น จนเตะตาค่าย Fat Cat Records (ที่ออกอัลบั้มให้วงดนตรี mum-ออกเสียงว่า ‘มุม’ วงดนตรีทดลองจาก Icelandic) และนำอัลบั้ม Spirit They're Gone, Spirit They've Vanished กับ Danse Manatee มาออกใหม่อีกครั้ง ซึ่งก็ยิ่งทำให้ผลงานของพวกเขาขยายวงคนฟังออกไปมากขึ้น

หลังจาก Here Comes the Indian ได้รับเสียงตอบรับที่ดี Avey และ Panda ตัดสินใจจดจ่อกับการ ‘ลด’ เครื่องเคราต่างๆ ลง ทั้งสองออกทัวร์คู่กันโดยใช้เพียงกีต้าร์โปร่ง กลอง (อันเดียว) เสียงเอฟเฟ็กต์นิดหน่อย แล้วก็เสียงร้องเท่านั้น ทั้งสองคนไปเล่นเปิดให้วง mum และ Four Tet จนได้ผลลัพท์ออกมาเป็นอัลบั้ม Sung Tongs (2004) ซึ่งได้รับเสียงวิจารณ์ดีเยี่ยม

Animal Collective ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับศิลปินในดวงใจ Vashti Bunyan “เจ้าแม่แห่งดนตรี Freak Folk” ในช่วงปี 70 (วง Bunyan’s band ซึ่งออกมาอัลบั้มเดียวชื่อ Just Another Diamond Day) และทาบทามให้ Bunyan มาร้องเพลงให้พวกเขาบ้าง ซึ่งเธอก็มาร้องให้ถึงสามเพลง (อยู่ใน EP ชุด Prospect Hummer-2005 กับค่าย Fat Cat) และส่งผลให้ค่าย Fat Cat ออกอัลบั้มที่สองให้เธอ Lookaftering (2005) ห่างจากอัลบั้มแรกถึง 30 ปี

Animal Collective ออกอัลบั้มที่ 7 Feels ในปี 2005 ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเช่นเคย ทั้งจากแฟนๆ และนักวิจารณ์ หลังจากออกอัลบั้มนี้ พวกเขาก็พยายามออกทัวร์ให้มากขึ้น โดยไปแสดงไกลถึงออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ จากเดิมที่เคยตระเวนเล่นอยู่ตามเทศกาลดนตรีแถวยุโรปและอเมริกา (เหนือ)

ในระหว่างทัวร์ พวกเขาทำเพลงใหม่ๆ ตลอดเวลา และนำมารวมไว้ในอัลบั้มล่าสุด Strawberry Jam (2007)
ในปีเดียวกันนี้เอง Animal Collective ฉบับครบ 4 คน ก็ได้ปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์ Late Night with Conan O Brien ของอเมริกาเป็นครั้งแรก โดยเล่นเพลง #1
พวกเขายังคงออกทัวร์และยังคงทำเพลงใหม่ๆ ตลอดเวลา แต่ตอนนี้ไม่มี Deakin เพราะ Deakin ขอพักผ่อนหนึ่งปี!

ดนตรีของ Animal Collective ค่อนข้างซับซ้อน ไม่อยู่ในระบบแบบแผนของดนตรีในท้องตลาดทั่วไป เป็นลักษณะการทดลองที่ใกล้เคียงกับการพยายามวิ่งเข้าหาสัญชาตญาณของการมีชีวิต

แถม
Avey Tare คือชื่อของ David Portner
ชื่อของ Avey มาจากการตัดตัว D ออกไปจากชื่อเรียก Davey (จากจริงชื่อ David) และคำว่า Tare มาจากการที่เขาตัดชื่อของตัวเอง ไม่ได้มาจากการเล่นคำ Avatar (อวตาร) อย่างที่เข้าใจกัน (หมายเหตุ ภรรยาของเขาก็คือหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งวง mum)

Panda Bear คือชื่อของ Noah Lennox
ชื่อของ Panda Bear มาจากภาพวาด (หมี) แพนด้าที่อยู่บนเทป 4 แทรกที่เขาใช้อัดเพลงตอนเด็กๆ

Deakin คือชื่อของ Josh Dibb
เขาเคยส่งจดหมายหา Avey โดยใช้สำนวนและลีลาแบบวรรณกรรมโรแมนซ์ในศตวรรษที่ 19 และลงท้ายชื่อว่า Conrad Deacon

Geologist คือชื่อของ Brian Weitz
หลายคนเข้าใจผิดว่าเขาเรียน ‘ธรณีวิทยา’ (Geology) ในขณะที่จริงๆ แล้วเขาเรียน ‘ชีววิทยา’ (Biology) ต่างหาก ชื่อ Geologist ของเขามาจากการชอบใส่ ‘หมวกไฟฉาย’ เวลาแสดงสด ซึ่งทำให้ดูเหมือนนักธรณีวิทยามาก

ติดตามเพิ่มเติมได้ที่ www.myanimalhome.net

3 comments:

Anonymous said...

อีเมลปีใหม่เก๋จ้ะ
ถือคติช้าแต่ชัวรสินะ

แยมสุขสบายดี ตัวยังไม่ระเบิด
แค่ใกล้ใกล้

เจอกันทักทายได้
แต่อย่าทักเรื่องอ้วน

นะจ๊ะ
:)

Anonymous said...

ก็ช้าไปตามประสา
พอดีช่วงที่ผ่านมาพักผ่อน และตะลอนไปมา
ตอบอีเมลช้า แต่ยืนยันว่าตอบแน่ๆ
ได้โปรดให้อภัย
(พยายามจะตอบทันทีมาหลายปีแล้ว
ปีนี้จะพยายามให้มากขึ้นนะ ^^)

Anonymous said...

ขอบคุณมากๆๆค่ะสำหรับบทความดีๆ