Thursday, February 28, 2008

EE: THE BRIDGE a film by Eric Steel


ดูหนังสารคดี The Bridge ทางดีวีดี (ได้ข่าวว่ามีฉายที่กรุงเทพฯ แต่ที่เชียงใหม่ไม่มี T_T)เป็นเรื่องเกี่ยวกับสะพาน Golden Gate ที่ซานฟรานฯ ว่ากันว่าเป็นสะพานที่คนนิยมไปกระโดดฆ่าตัวตายมากที่สุดในโลก ผู้กำกับ Eric Steel ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจในเรื่องนี้มาจากบทความเรื่อง 'Jumpers' (ไม่ใช่หนัง JUMPERที่ฉายอยู่ตอนนี้นะ) ที่เขียนลง The New Yorker ในปี 2003 โดย คุณ Tad Friend และทีมงานเลยเอากล้องไปตั้งถ่ายไว้สองจุด (เฉพาะเวลากลางวัน) ตลอดปี 2004 (หนึ่งปีเต็ม!) และถ่ายการฆ่าตัวตายได้ราวๆ 24 ราย

หนังตามต่อไปสัมภาษณ์ญาติพี่น้องเพื่อนฝูง พยานที่รู้เห็นในเหตุการณ์ หรือกระทั่งคนที่เคยกระโดดแล้วรอดชีวิตในช่วงเวลานั้น โปรเจกต์นี้ถูกเก็บเป็นความลับ เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ประเภท 'นักอยากดัง' แล้วไปทำทีกระโดดระหว่างที่ถ่ายทำ เกิดสถิติว่า ทุกๆ 15 วันโดยเฉลี่ย จะมีคนไปกระโดดสะพานนั่น 1 คน! (ลือกันว่าหลังจากที่หนังฉาย คุณ Steel ก็มีปัญหากับคณะกรรมการดูแล Golden Gate เพราะว่าตอนที่ไปขอถ่ายทำ แกไปบอกว่าจะไปบันทึกความยิ่งใหญ่อลังการที่ผสมผสานการดำรงอยู่ระหว่าง สะพาน กับ ธรรมชาติ)

เคยมีโอกาสไปป้วนเปี้ยนอยู่ในเมืองนั้นพักหนึ่ง ผ่านไปผ่านมาพี่ 'สะพาน' นั่นก็หลายครั้ง แค่เห็นความสูงก็เสียวแล้ว ตอนนั้นมัวแต่สนใจว่าสร้างกันได้ยังไง ทั้งใหญ่โตและต้องต่อสู้กับสภาพภูมิอากาศระหว่างก่อสร้าง

ระหว่างที่ดู ก็นึกอีกมุมว่า ระหว่างที่กำลังถ่ายทำกันอยู่นั้น ได้มีการห้ามปราม หรือยับยั้งการฆ่าตัวตายหรือไม่ หรือผู้กำกับก็เพียงแต่ทำหน้าที่ 'บันทึก' สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น เรื่องนี้คุยยาก หลายความเห็นคงคิดว่าน่าจะไปห้าม แต่ความคิดอีกด้านก็ค้านได้ว่า มันเป็นการตัดสินใจของเขา ซึ่งก็อาจเป็นการสมควรที่จะเคารพการตัดสินใจนั้นยิ่งเห็นในหนังแล้วคิดตามไปว่า นั่นเป็นการฆ่าตัวตายจริงๆ คนๆ นั้นที่เราเห็นเขาตายไปจริงๆ ก็เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดบอกไม่ถูก
รู้แต่ว่าเรื่องการฆ่าตัวตายเป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงกันไปไม่จบสิ้น เพราะว่าไม่ได้มิติเดียวแค่เรื่องบาปบุญคุณโทษ

กับอีกความรู้สึกหนึ่ง ไม่รู้ทำไม ระหว่างที่ดู รู้สึกเหมือน 'สะพาน' ทั้งๆ ที่เป็นแค่สิ่งก่อสร้าง แต่เหมือนมันก็มีชีวิตเป็นของมันเองยังไงไม่รู้ คงเป็นเพราะเรื่องราวต่างๆ ที่ล้อมรอบตัวมันล่ะมั้ง

ปล สนใจอ่านบทความของคุณ Tad Friend ขอเชิญที่นี่ (เรายังไม่ได้อ่านนะ)

http://www.newyorker.com/archive/2003/10/13/031013fa_fact

3 comments:

Anonymous said...

เรื่องนี้เห็นชื่อผ่านมานานแล้วที่กรุงเทพฯ จากหลายๆที่
เวบ นิตยสาร ฯลฯ

ไม่รู้มันเกี่ยวกับอะไร กลัวหลับเลยไม่สนใจ เพราะมันมีแต่สะพานกับแม่น้ำเหมือนรูปที่ 1

พออ่านแล้วอยากดูแหะ !!!

Anonymous said...

โห...เป็น ข้อความ ที่รู้สึกดีมากกกกก
อยากให้ที่นี่ทำให้คนอื่นๆ รู้สึกแบบนี้ได้มากๆ
ความหมายมันอยู่ตรงนั้น

ดีใจนะครับ ^^

Anonymous said...

hello dear brother, how are you ja? we plan to go north again, i'll give you a shout when its time.. by the way Happy new year jao!!! Mod and Beady